การสรางโมเดลวัตถุ 3 มิตแิ บบ Surface Modeling เปนวิธที ใี่ ชกบั วัตถุทมี่ พี นื้ ผิวไมสม่ําเสมอ (Irregular
surface) ในการขึน้ รูปโมเดลแบบนี้ เราจะตองเขียนโครงลวด(Wireframe)จากวัตถุ 2 มิติ อาทิ เชน LINE,
ARC, CIRCLE, ELLIPSE, 2D POLYLINE, 3D POLYLINE, SPLINE, RECTANG หรือ POLYGON
ขึน้ มาเปนโครงรางของวัตถุ 3 มิติกอ น เมือ่ เขียนโครงลวดของวัตถุ 3 มิตเิ สร็จเรียบรอยแลว จึงสราง
พืน้ ผิว(Surface)เชือ่ มตอสวนตางๆ ของโครงลวด เมือ่ พืน้ ผิวหรือเซอรเฟสถูกสรางขึน้ มาแลว เราจึงจะ
สามารถนําเซอรเฟสโมเดลไปใชในงานประเภทตางๆ ได
ถึงแมวา AutoCAD 2007 จะมีความสามารถสูงมากพอสมควรในงานขึน้ รูปแบบ Solid Modeling แต
ทางดานงานขึน้ รูปแบบ Surface Modeling นัน้ ลาหลัง(Obsolate)มาก เพราะคําสัง่ ในกลุม นีไ้ มไดรบั
การพัฒนามาเปนระยะเวลามากกวาสิบป จึงมีขอจํากัดและมีจดุ ออนอยูมาก กลุม คําสัง่ ในการสราง
เซอรเฟสที่มีใชใน AutoCAD Release 10 (October 1988) ซึง่ เปนเซอรเฟสพืน้ ฐานแบบงายๆ ยังคง
มีใชงานอยูใน AutoCAD 2007 คําสั่งใหมที่เกี่ยวของกับเซอรเฟสที่เพิ่มขึ้นมาใน AutoCAD 2007
มีเพียงคําสัง่ เดียวคือ Planar Surface ซึง่ ไมไดชวยเพิม่ ความสามารถขึน้ มามากนัก ดังนัน้ จึงถือไดวา
เซอรเฟสของ AutoCAD ยังคงจัดอยูใ นระดับเบือ้ งตนเทานัน้
Note หากผูใชโปรแกรมตองการสรางเซอรเฟสที่มีคุณภาพ เราไมสามารถที่จะใช AutoCAD 2007 ได
เนื่องจากคําสั่งในการสรางเซอรเฟสมีจํากัด ไมสามารถขึ้นรูปเซอรเฟสที่มีความซับซอน มีสวนโคง
สวนเวาและมีความราบเรียบอยางตอเนือ่ งได เราจะตองใชโปรแกรมอื่นๆ แทน อาทิ เชน Rhinoceros
3D, FormZ และอืน่ ๆ เปนเครือ่ งมือในการขึน้ รูปเซอรเฟส แลวสามารถนํากลับมาใชงานใน AutoCAD
จะมีประสิทธิภาพมากกวาการใชคําสั่งสรางเซอรเฟสของ AutoCAD
2D Drafting
รูปที่ 6.3
กอ น หลัง
Note วัตถุ 2 มิตทิ สี่ ามารถนํามาใชกับคําสั่งนี้ไดคอื LINE, CIRCLE, ARC, ELLIPSE, ELLIPTICAL ARC,
2D POLYLINE, 3D POLYLINE (บนระนาบ 2D) และ SPLINE (บนระนาบ 2D)
6.2 SOLID | SO |
คําสัง่ นีใ้ ชสําหรับเขียนรูปหลายเหลีย่ มแบบทึบตัน 2 มิตบิ นระนาบ XY หลังจากใชคําสัง่ นีส้ รางรูป
หลายเหลี่ยมขึ้นมาแลว รูปหลายเหลี่ยมจะกลายเปนเซอรเฟสที่ไมมีความหนาใน 3 มิติ เราสามารถ
ใชคําสั่ง CHANGE, CHPROP หรือคําสัง่ Modify4Properties เพือ่ กําหนดความหนา(Thickness)
ใหแกเซอรเฟสไดดงั รูปที่ 6.4 ในกรณีทตี่ อ งการแปลงใหเปน Solid ใน 3 มิติ เราสามารถใชคําสัง่ Draw
4Modeling4Extrude เพือ่ แปลงโซลิด 2 มิตใิ หกลายเปนโซลิด 3 มิตทิ ม่ี คี วามหนาได
รูปที่ 6.4
กอ น หลัง
Note จากรูปที่ 6.4 (ขวา) เปน 2D Solid หรือเซอรเฟส 2 มิตทิ ี่ถกู กําหนดใหมีความหนาใน 3 มิตโิ ดยใชคําสั่ง
PROPERTIES แลวแกไขคา Thickness สังเกตุวา 2D Solid จะแยกออกเปน 2 ชิน้ ซึ่งเราสามารถกําหนด
ความหนาของแตละชิ้นใหมีคาแตกตางกันได วัตถุ 3 มิติที่กําหนดความหนาดวยวิธีนี้เปนเซอรเฟส
หากใชคําสั่ง Draw 4Modeling4Extrude วัตถุที่ไดจะกลายเปนโซลิด 3 มิติ
Note วัตถุ 3 มิตทิ ขี่ นึ้ รูปมาจากวัตถุ 2 มิตโิ ดยกําหนดความหนา(Thickness)ดวยวิธี Surface นีไ้ มสามารถทีจ่ ะ
แกไขปรับแตงสวนใดๆ ในแนวแกน Z ได แตสามารถแกไขรูปรางของวัตถุในระนาบ XY ไดเสมอ
โดยใชคําสั่ง STRETCH แลวเคลื่อนยายจุดตางๆ ในระนาบ XY เพื่อเปลี่ยนรูปรางของเซอรเฟสได
6.3 3DFACE | 3F |
ใชสําหรับสรางผิวหนา(Face)เชือ่ มตอโครงลวด(Wireframe)ทีเ่ ขียนเปนรูปรางของวัตถุ 3 มิตแิ ลว
รูปที่ 6.5
กอ น หลัง
Command: _3dface Specify first point or [Invisible]: {จากรูปที่ 6.5 (ซาย) ใหแนใจวา
# อยูใ นสถานะเปด เลือ่ นเคอรเซอรไปตรงจุดที่ 1 เมือ่ ปรากฏมารคเกอร ใหคลิกซาย}
Specify second point or [Invisible]: {เลือ ่ นเคอรเซอรไปตรงจุดที่ 2 เมือ่ ปรากฏ ใหคลิกซาย}
Specify third point or [Invisible] <exit>: {เลือ ่ นเคอรเซอรไปตรงจุดที่ 3 เมือ่ ปรากฏ ใหคลิกซาย}
Specify fourth point or [Invisible] <create three-sided face>: {คลิกขวาหรือกดปุม Q
เพือ่ สรางเฟส 3 เหลีย่ ม}
Specify third point or [Invisible] <exit>: {คลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ออกจากคําสัง่ }
Command: {คลิกขวาหรือกดปุม Q เพือ่ ทําซ้าํ คําสัง่ 3DFACE}
6.4 AI_BOX |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสกลองสีเ่ หลี่ยมผืนผาหรือกลองสีเ่ หลีย่ มจัตรุ ัส
รูปที่ 6.6
กลองสี่ เหลี่ ยมผืนผา กลองสี่ เหลี่ ยมจั ตุรัส
6.5 AI_PYRAMID |
ใชสําหรับสรางรูปปรามิดแบบฐานสามเหลีย่ ม(Tetrahedron)หรือแบบฐานสี่เหลี่ยมดังรูปที่ 6.7
รูปที่ 6.7
6.6 AI_WEDGE |
ใชสําหรับสรางรูปลิม่ (Wedge)เซอรเฟส 3 มิติดงั รูปที่ 6.8
รูปที่ 6.8
6.7 AI_DOME |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสรูปทรงกลมครึง่ ซีกคว่ําหรือรูปโดมลงบนพืน้ ระนาบดังรูปที่ 6.9
รูปที่ 6.9
Command: _ai_dome
Specify center point of dome: {กําหนดจุดศูนยกลางของรูปโดมบนพื้นระนาบ XY}
Specify radius of dome or [Diameter]: {กําหนดรัศมี โดยพิมพคารัศมีหรือใชเมาสเพื่อ
กําหนดรัศมีหรือพิมพ D แลวกดปุม Q เพื่อกําหนดเสนผาศูนยกลาง}
Enter number of longitudinal segments for surface of dome <16>: {กํ าหนดเซกเมนต
ในแนวตั้งหรือ Q เพื่อใชคา 16 ที่โปรแกรมกําหนดมาให}
Enter number of latitudinal segments for surface of dome <8>: {กํ าหนดเซกเมนต
ในแนวนอนหรือ Q เพื่อใชคา 8 ที่โปรแกรมกําหนดมาให}
6.8 AI_SPHERE |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสรูปทรงกลมดังรูปที่ 6.10 2D Drafting
รูปที่ 6.10
Command: _ai_sphere
Specify center point of sphere: {กําหนดจุดศูนยกลางของรูปทรงกลมบนพืน้ ระนาบ XY}
Specify radius of sphere or [Diameter]: {กําหนดรัศมี โดยพิมพคา รัศมีหรือใชเมาสเพือ่ กําหนดรัศมี
หรือพิมพ D แลวกดปุม Q เพือ่ กําหนดเสนผาศูนยกลาง}
Enter number of longitudinal segments for surface of sphere <16>:
{กําหนดเซกเมนตในแนวตัง้ }
Enter number of latitudinal segments for surface of sphere <16>:
{กําหนดเซกเมนตในแนวนอน}
6.9 AI_CONE |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสรูปทรงกรวยดังรูปที่ 6.11
รูปที่ 6.11
Command: _ai_cone
Specify center point for base of cone: {กําหนดจุดศูนยกลางของฐานกรวย}
Specify radius for base of cone or [Diameter]: {กําหนดรัศมีฐาน โดยพิมพคา รัศมีหรือใชเมาสเพือ่
กําหนดรัศมีหรือพิมพ D แลวกดปุม Q เพือ่ กําหนดเสนผาศูนยกลาง}
Specify radius for top of cone or [Diameter] <0>: {กําหนดรัศมียอด โดยพิมพคา รัศมีหรือ
ใชเมาสเพือ่ กําหนดรัศมีหรือพิมพ D แลวกดปุม Q เพือ่ กําหนดเสนผาศูนยกลาง หากตองการใหยอด
แหลม ใหกดปุม Q เพือ่ ใชรศั มียอดเทากับ 0}
Specify height of cone: {กําหนดคาความสูงของกรวย โดยพิมพคา ความสูงหรือใชเมาสกาํ หนดความสูง}
Enter number of segments for surface of cone <16>: {กําหนดจํานวนเซกเมนตของกรวยหรือ
Q เพือ่ ใชคา 16 ทีโ่ ปรแกรมกําหนดมาให}
6.10 AI_TORUS |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสรูปทรงขนมโดนัทดังรูปที่ 6.12
Command: _ai_torus
Specify center point of torus:{กําหนดจุดศูนยกลางของขนมโดนัท}
Specify radius of torus or [Diameter]: {กําหนดรัศมีหรือเสนผาศูนยกลางของขนมโดนัท}
Specify radius of tube or [Diameter]: {กําหนดรัศมีหรือเสนผาศูนยกลางทอของขนมโดนัท}
Enter number of segments around tube circumference <16>:
{กําหนดเซกเมนตทอ ของขนมโดนัท}
Enter number of segments around torus circumference <16>:
{กําหนดเซกเมนตตามเสนรอบวงของขนมโดนัท}
6.11 AI_DISH |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสรูปทรงกลมครึง่ ซีกหงายขึน้ หรือรูปจานบนพืน้ ระนาบดังรูปที่ 6.13
รูปที่ 6.13
Command: _ai_dish
Specify center point of dish: {กําหนดจุดศูนยกลางของรูปจานบนพืน้ ระนาบ XY}
Specify radius of dish or [Diameter]: {กําหนดรัศมี โดยพิมพคา รัศมีหรือใชเมาสเพือ่ กําหนด
รัศมีหรือพิมพ D แลวกดปุม Q เพือ่ กําหนดเสนผาศูนยกลาง}
Enter number of longitudinal segments for surface of dish <16>:
{กําหนดเซกเมนตในแนวตัง้ }
Enter number of latitudinal segments for surface of dish <8>:
{กําหนดเซกเมนตในแนวนอน}
6.12 AI_MESH
ใชสรางพื้นผิว 3 มิตโิ ครงตาขาย โดยกําหนดมุม 4 มุมแสดงขอบเขตของโครงตาขายดังรูปที่ 6.14
Mesh size = 5
ทิศทาง N
รูปที่ 6.14
ทิศทาง M
Mesh size = 8
Command: _ai_mesh
Specify first corner point of mesh: {กําหนดมุมที่ 1 โดยใชเมาสคลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท}
Specify second corner point of mesh: 2D Drafting
{กําหนดมุมที่ 2 โดยใชเมาสคลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท}
Specify third corner point of mesh: {กําหนดมุมที่ 3 โดยใชเมาสคลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท}
Specify fourth corner point of mesh: {กําหนดมุมที่ 4 โดยใชเมาสคลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท}
Enter mesh size in the M direction: 8 {กําหนดจํานวนตาขาย(Mesh)ในทิศทาง M สังเกตุวา เสนขอบ
ในทิศทาง M จะกลายเปนเสนประ}
Enter mesh size in the N direction: 5 {กําหนดจํานวนตาขาย(Mesh)ในทิศทาง N สังเกตุวา เสนขอบ
ในทิศทาง N จะกลายเปนเสนประ จะปรากฏดังรูปที่ 6.14}
รูปที่ 6.15
6.13 EDGE |
ใชสําหรับแสดงหรือซอนเสนขอบ(Edge)ของผิวหนา(Face) โดยปกติ เสนขอบของผิวหนาสามเหลีย่ ม
2 ชิน้ ทีม่ เี สนขอบรวมกันและอยูต ดิ กันบนระนาบ XY เดียวกัน โปรแกรมจะไมแสดงเสนขอบรวมกัน
ของผิวหนาทัง้ สองนัน้
เสนขอบ(Edge)
แสดงเส นขอบ แสดงผิ วหน า รูปที่ 6.16 แสดงผิ วหน า ซ อนเส นขอบ
Command: _edge
Specify edge of 3dface to toggle visibility or [Display]: {คลิกบนเสนขอบทีต่ อ งการซอน}
Specify edge of 3dface to toggle visibility or [Display]: {คลิกขวาหรือQ เสนทีถ่ กู เลือกจะถูก
ซอน}
6.14 3DMESH |
ใชสําหรับสรางพืน้ ผิว 3 มิตโิ ครงตาขาย(Mesh) โดยกําหนดจุดเวอรเทกซในตําแหนงทีต่ อ งการ เหมือน
กับคําสัง่ AI_MESH เราใชคําสัง่ นีเ้ ปนพืน้ ฐานในการสรางวัตถุ 3 มิติ อาทิ เชน ภูมปิ ระเทศ วัตถุพนื้ ผิว
นูนหรือเวาและอื่นๆ
รูปที่ 6.17
10
N=
N = 10
M=
10
M = 10
Command: _3dmesh
Enter size of mesh in M direction: 2 {กําหนดจํานวนจุดเวอรเทกซของโครงตาขายในทิศทาง M}
Enter size of mesh in N direction: 2 {กําหนดจํานวนจุดเวอรเทกซของโครงตาขายในทิศทาง N}
Specify location for vertex (0, 0): {คลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท เพือ
่ กําหนดจุดเวอรเทกซเริม่ ตน}
Specify location for vertex (0, 1): {คลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท}
Specify location for vertex (1, 0): {คลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท}
Specify location for vertex (1, 1): {คลิกหรือพิมพคา คอรออรดเิ นท โครงตาขายจะถูกสรางขึน้}
รูปที่ 6.18
2D Drafting
เคลื่ อนยายจุดเวอรเทกซ ปรับผิวโคงแบบ Quadratic ปรับผิวโค งแบบ Cubic ปรับผิวโคงแบบ Bezier
6.15 REVSURF |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟส โดยวิธีการหมุนรอบแกนดังรูปที่ 6.19
รูปที่ 6.19
Command: _revsurf
Current wire frame density: SURFTAB1=6 SURFTAB2=6 {โปรแกรมรายงานคาความหนาแนน
ของโครงลวดปจจุบนั }
Select object to revolve: {คลิกบนโครงลวด LINE, ARC, CIRCLE, SPLINE, 2D หรือ 3D POLYLINE}
Select object that defines the axis of revolution: {คลิ ก บนแกนหมุ น LINE, 2D หรื อ 3D POLYLINE}
Specify start angle <0>: {กําหนดมุมเริม่ ตนสรางพืน้ ผิว โดยปกติควรกดปุม Q เพือ่ ใชคา 0}
Specify included angle (+=ccw, -=cw) <360>: {กําหนดมุมรวมในการสรางพืน้ ผิว โดยปกติควรกดปุม
Q เพือ่ ใช Full circle}
Note เราสามารถใช LINE, ARC, CIRCLE, SPLINE, 2D หรือ 3D POLYLINE ทัง้ แบบเปดและแบบปดเปน
วัตถุที่จะถูกหมุน หากเราใชคําสั่ง LINE และ ARC สรางวัตถุที่จะถูกหมุน เราควรจะใชคําสั่ง PEDIT
เพื่อแปลง LINE และ ARC ใหเปนโพลีไลนเพียงชิ้นเดียว เพื่อที่เราไมตองใชคําสั่ง REVSURF ซ้ํา
หลายๆ ครั้ง สวน Axis of revolution ควรใชคําสั่ง LINE หรือ 2D หรือ 3D POLYLINE 1 เซกเมนต
รูปที่ 6.20
จุดทีใ่ ชเมาสคลิก
6.16 TABSURF |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟส โดยเขียนโครงตาขายตามขนาดและทิศทางของเวคเตอรดังรูปที่ 6.21
LINE หรือ Direction vector รูปที่ 6.21
Command: _tabsurf
Select object for path curve: {คลิกบนโครงลวด LINE, ARC, CIRCLE, ELLIPSE, SPLINE, 2D หรือ
3D POLYLINE}
Select object for direction vector: {คลิกบนเวคเตอรกําหนดความยาวและทิศทาง LINE, 2D หรือ 3D
POLYLINE}
Note จุดทีใ่ ชเมาสคลิกบน Direction vector เปนสิง่ ทีก่ ําหนดทิศทางการสรางเซอรเฟส หากจุดทีใ่ ชเมาสคลิก
คอนไปดานลาง เซอรเฟสจะถูกสรางไปตามทิศทางของเวคเตอร หากจุดทีใ่ ชเมาสคลิกคอนไปดานบน
เซอรเฟสจะถูกสรางสวนทิศทางของเวคเตอร
6.17 RULESURF |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสโดยเขียนโครงตาขาย(Mesh)เชื่อมตอระหวางวัตถุ 2 ชิน้ ดังรูปที่ 6.22
เสนโคง SPLINE
Command: _rulesurf
Current wire frame density: SURFTAB1=6 {โปรแกรมรายงานค าความหนาแน นปจ จุบั นของโครงตาข าย}
Select first defining curve:
POLYLINE ทีใ่ ชเปนโคงกําหนดเสนที่ 1}
2D Drafting
{คลิกบนโครงลวด LINE, ARC, CIRCLE, ELLIPSE, SPLINE, 2D หรือ 3D
Select second defining curve: {คลิกบนโครงลวด LINE, ARC, CIRCLE, ELLIPSE, SPLINE, 2D หรือ
3D POLYLINE ทีใ่ ชเปนโคงกําหนดเสนที่ 2}
Note จุดทีใ่ ชเมาสคลิกบน Defining curve ทัง้ สองเปนสิง่ ทีก่ ําหนดทิศทางการสรางโครงตาขาย หากจุดทีค่ ลิก
อยูบนปลายเสนดานเดียวกัน โครงตาขายจะปรากฏถูกตอง หากจุดที่คลิกอยูบนปลายเสนบนดานที่
ตางกัน โครงตาขายจะปรากฏไมถูกตองดังรูปที่ 6.23
รูปที่ 6.23
6.18 EDGESURF |
ใชสําหรับสรางเซอรเฟสโดยเขียนโครงตาขาย(Mesh)ระหวางวัตถุ 4 ชิน้ ทีส่ รางจากคําสัง่ LINE, ARC,
SPLINE, 2D หรือ 3D POLYLINE โดยทีป่ ลายเสนทัง้ 4 จะตองเชื่อมตอกันดังรูปที่ 6.24
รูปที่ 6.24
Command: _edgesurf
Current wire frame density: SURFTAB1=6 SURFTAB2=24 {รายงานความหนาแนนของโครงตาข าย}
Select object 1 for surface edge: {คลิกบนเสนขอบที่ 1}
Select object 2 for surface edge: {คลิกบนเสนขอบที่ 2}
Select object 3 for surface edge: {คลิกบนเสนขอบที่ 3}
Select object 4 for surface edge: {คลิกบนเสนขอบที่ 4 โปรแกรมจะเขียนโครงตาขายเชือ
่ มตอขอบทัง้ 4
ทีถ่ กู เลือกดังรูปที่ 6.25}
Note LINE, ARC, SPLINE, 2D หรือ 3D POLYLINE ทีน่ ํามาใชในคําสัง่ นี้ ปลายเสนทุกเสนจะตองเชือ่ มตอ
กันพอดี โดยใช Object snap ในโหมด Endpoint
าง N AI_MESH
ทิศท
ท ิศ ท
าง M
รูปที่ 6.25
Edit vertex ใช ตั วเลื อกนี้ สํ าหรั บ เลื อ กหรื อ เคลื่ อ นย ายจุ ด เวอร เทกซ ของโครงตาข ายไปยั ง
ตําแหนงตางๆ ใน 3 มิติ
Vetex (0,0) แสดงพิกัดคอร ออร ดิเนทของจุ ดเวอรเทกซที่ ถู กเลื อก พรอมทั้ งแสดงเครื่ องหมาย
กากบาท X บนจุดเวอรเทกซบนโครงตาขายที่ถูกเลือก
Next เปนตัวเลือกใชงาน ซึง่ ใชสําหรับเลือกจุดเวอรเทกซทอี่ ยูถดั ไปจากจุดเวอรเทกซใชงาน
สังเกตุเครื่องหมายกากบาท X แสดงตําแหนงจุดเวอรเทกซที่ถกู เลือก
Previous ยอนกลับไปยังจุดเวอรเทกซจุดกอน
Left เลือกจุดเวอรเทกซที่อยูทางซาย
Right เลือกจุดเวอรเทกซที่อยูทางขวา
Up เลือกจุดเวอรเทกซที่อยูดานบน
Down เลือกจุดเวอรเทกซที่อยูดานลาง
Move เคลือ่ นยายจุดเวอรเทกซทถี่ กู เลือกไปยังตําแหนงใหมใน 3 มิติ
REgen ปรับพื้นผิวของโครงตาขายใหราบเรียบตามแบบพื้นผิวที่กําหนดดวย ตัวแปรระบบ
SURFTYPE ใหม โดยคํานวณตําแหนงของจุดเวอรเทกซใหมทงั้ หมด
eXit ออกจากตัวเลือก Edit vertex
รูปที่ 6.27
6.22 SURFTAB2
เป นตั วแปรระบบที่ ใช สํา หรั บควมคุ ม ความหนาแน นของโครงตาข า ยในทิ ศทาง N ของคําสั่ ง
REVSURF และ EDGESURF
Command: SURFTAB2
Enter new value for SURFTAB1 <6>: {พิมพคา ความหนาแนนของโครงตาขายทีต่ อ งการ}
หลังทีเ่ ราไดศกึ ษาคําสัง่ ตางๆ ซึง่ ใชในการขึน้ รูป Surface มาทัง้ หมดแลว เราจะเห็นไดวา การขึน้ รูปดวย
เซอรเฟสใน AutoCAD ยังมีขอ จํากัดอยูม าก และทีส่ ําคัญคือยังไมมคี ําสัง่ ใดทีจ่ ะสามารถควบคุมความ
ต อเนื่ องระหว างเซอร เฟสให ราบเรี ยบโดยอั ตโนมั ติ หากต องการควบคุ มความต อเนื่ องของการ
สัมผัส(Tangency)ระหวางเซอรเฟสใหราบเรียบ เราจะตองใชเสนโครงลวดเปนตัวควบคุมเทานั้น
ในทางปฏิบตั ิ จึงเปนการยากทีจ่ ะควบคุมการสัมผัสระหวางเซอรเฟสใหได 100 เปอรเซนต นอกจาก
เราจะตองสรางโครงลวดที่สามารถควบคุมการสัมผัสระหวางพืน้ ผิวได 100 เปอรเซนตเชน เดียวกัน
แตก็จะตองใชเวลาในการขึ้นรูปโครงลวดอยางมาก
เปนอันวาในบทนีเ้ ราไดศกึ ษาหลักและวิธกี ารสรางวัตถุ 3 มิติดว ยวิธี Surface modeling มาพอสังเขป
แลว ในบทตอไป เราจะศึกษาวิธใี ชคาํ สัง่ ตางๆ ทีเ่ กีย่ วของกับการขึน้ รูปวัตถุ 3 มิติ ดวยวิธี Solid modeling
ซึง่ ใน AutoCAD 2007 นัน้ มีวธิ ีการขึน้ รูปวัตถุ 3 มิติทง่ี า ยและรวดเร็วกวา AutoCAD รีลสี กอนๆ เปน
อยางมาก
************************************